วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วิชามารรัฐกิจ-101 : ว่าด้วยการโกงรัฐให้แนบเนียน โดยไม่ต้องประมูลได้อย่างไร?


โดย รองศาสตราจารย์ ดร. ต่อตระกูล ยมนาค ศูนย์บริการวิชาการธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม


ลองวาดภาพในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าเราอาจจะได้เห็นหลักสูตรสอนวิชาโกงรัฐขึ้นสอนในระดับมหาวิทยาลัยในหลักสูตรบริหารธุรกิจ ถ้าสังคมไทยยังพัฒนาการเมืองไปในทางที่เป็นอยู่เหมือนในปัจจุบันที่มีนักการเมืองที่โกงกินเงินของประเทศ ยังคงได้เงินก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากส่วนแบ่ง 5% เพิ่มเป็น 10%,15%, 20%, 25% มาเป็น 30% ในปัจจุบันนักการเมืองจำนวนหนึ่งเติบโตอย่างรวดเร็ว จากเงินที่ได้มาเพียง 1,000 ล้าน (10%) เมื่อ 6 ปีก่อน กลายมาเป็นกลุ่มนักการเมืองที่สำคัญในปัจจุบัน นักการเมืองอีกพวกหนึ่งเรียนรู้เทคนิคลับนี้จากปรมาจารย์ที่เป็นระดับผู้นำพรรคหนึ่งในอดีต สามารถล็อกเงื่อนไขการประมูล ทำให้พรรคพวกกลุ่มตนเองได้งานจัดซื้อจัดจ้างงานภาครัฐเกือบทั้งหมด


ความรู้ที่ต้องเรียกว่าเป็น วิชามารรัฐกิจนี้ มีผู้รู้อยู่ในนักการเมืองจำนวนไม่มาก จากหลักการโกงง่ายๆ ที่มีแต่หลักการที่ว่า ต้องอย่าให้มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร โดยห้ามรับเป็นเช็ค ให้รับเป็นเงินสดเท่านั้น แม้จะต้องใช้รถแวนขนกันเต็มคันรถก็ตาม หากต้องเขียนให้เขียนบนฝ่ามือแล้วชูให้อ่าน เมื่อฝ่ายผู้ถูกรีดไถอ่านเสร็จให้รีบลบข้อความออกจากฝ่ามือ โดยถูมือทั้งสองข้างทันที


จากความรู้เทคนิคง่ายๆ กลายเป็นความรู้ที่ขยายตัวไปถึงการนำเงินเหล่านั้นไปใช้เพื่อเข้าสู่การยึดอำนาจปกครองประเทศตามวิถีทางการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ได้อย่างไร โดย ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ได้นำมารวบรวมเป็นครั้งแรก ตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อ "คู่มือทรราช - เทคนิคการคอร์รัปชันปล้นชาติ ยึดประเทศและทำลายคนดี" เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2543 และกลายเป็นหนังสือขายดี ที่ทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองในอีก 5 ปี ได้แม่นยำยิ่งกว่าหมอดู และในปี 2550 ดร.วุฒิพงษ์ ก็เป็นผู้หนึ่งที่ถูกวิชามารนี้ทำลายไปตามเทคนิค "ทำลายคนดี" ที่อาจารย์ได้เขียนไว้เองในหนังสือเล่มนี้ ขอยกบัญญัติ 10 ประการของผู้ที่จะเป็นผู้นำทรราชมาสรุป ดังนี้


1.ยึดรัฐบาล เริ่มด้วยการยึดสภาหรือกวาดซื้อ ส.ส. 2.ยึดธุรกิจผูกขาด ธุรกิจคมนาคม ธุรกิจขนส่ง 3.ยึดองค์กรของรัฐ วางคนของตัวเองในตำแหน่งสำคัญๆ ในกระทรวงทบวงกรมต่างๆ และรัฐวิสาหกิจ 4.ทำลายคู่แข่งทางการเมือง วิธีการทำลายที่ดีที่สุดก็คือทำลายภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ 5.ทำลายคนดี ต้องทำลายเพราะคนดีเป็นอุปสรรคการโกงชาติ ปล้นประชาชน วิธีการที่ดีที่สุดคือซื้อสื่อ 6.ทำลายภาคประชาชน ให้ขัดขวางความเติบโตของภาคประชาชนด้วยการทำให้พวกเขาขาดแคลนใน "3 ชั่น" คือ Education, Organization และ Information 7.ขัดขวาง (ทำลาย) การปฏิรูปทางการเมือง 8.สร้างภาพลักษณ์ เน้นวิธีการ "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" และซื้อนักวิชาการ 9.สร้างเครือข่ายทุจริตชน ควรประกอบด้วยบุคคลหลากหลายอาชีพ เช่น นักการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการระดับสูง ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ นายทหารระดับสูง มาเฟีย สื่อมวลชนอาวุโส 10.สร้างการบริหารองค์กรทรราช ต้องบริหารแบบทรราชมืออาชีพ และพัฒนาฝีมือตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถเขมือบโครงการที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ สู่ระดับแสนล้านบาทให้ได้
ในเนื้อหาวิชามารรัฐกิจ-101 จะให้ความรู้ในขั้นปฏิบัติของกลุ่มผู้ทุจริตโกงชาติต่อจากตำราคู่มือทรราช เพื่อให้สามารถโกงเงินรัฐให้แนบเนียนโดยไม่ต้องประมูลได้อย่างไรเป็นความรู้ที่สาธารณชนคนดี ที่รักชาติ รักประชาธิปไตยควรรู้ไว้ และใช้ในการติดตามพฤติกรรม


ลักษณะขบวนการโกงเงินของชาติจะมีพฤติกรรม 9 ประการ ดังนี้
1.จะไม่สร้างหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่มีเอกสารและลายเซ็น ไม่มีการโอนเงินทางธนาคาร ไม่เจรจาในสถานที่อาจถูกอัดเทป อัดคลิป หรือถูกถ่ายภาพ
2.ล็อกเงื่อนไขการประมูลตั้งแต่เริ่มเขียนโครงการ (TOR) กำหนดเงื่อนไขที่มีผู้ผลิตได้คนเดียวในโลก เช่น เครื่อง X-Rays กระเป๋า ต้องตรวจยาเสพติดได้ด้วย กำหนดเงินค้ำประกันสูงหลายพันล้าน กำหนดคุณสมบัติพิเศษที่มีราคาสูงแต่เวลาทำจริงจะลดหย่อนสเปคให้ถ้าเป็นบริษัทพวกตัวเอง กำหนดเวลาส่งมอบสั้นและมีค่าปรับสูงมากและกำหนดเสร็จภายใน 1 ปี แต่ทำจริงต่อรองให้เป็น 2 ปีครึ่งและไม่ปรับ
3.จำกัดผู้มีสิทธิเข้าประมูลให้เหลือเพียงบริษัทกลุ่มของตนจัดเป็นคู่แข่งหลอกไม่เกิน 2 ราย
4.แต่งตั้งข้าราชการที่มีอำนาจ ประธานกรรมการและกรรมการ รัฐมนตรี เข้าไปควบคุมทุกกรรมการ
5.สร้างการสนับสนุนจากสื่อ โดยซื้อนักเขียนบทวิจารณ์ และสร้างม็อบว่าจ้างมาสนับสนุนโครงการ
6.สร้างโครงการที่เป็นโครงการเทคโนโลยีสูง เป็นเทคโนโลยีใหม่ ทำให้สร้างราคากลางได้สูง
7.จำกัดระยะเวลา การจัดเตรียมราคาเสนอให้จำกัด ทำให้คนทั่วไปจัดเตรียมข้อมูลเสนอประมูลไม่ทัน ส่วนพวกตัวเองได้เตรียมการมาล่วงหน้าเป็นปี
8.ใช้วิธี E-Auction ทำให้รู้ตัวผู้ที่จะเข้าประมูลแข่งได้หมด ฮั้วได้ 100%
9.ให้หลีกเลี่ยงการนำเข้าเสนออนุมัติในคณะรัฐมนตรีที่มีพรรคอื่นร่วมพิจารณาด้วย ถ้าจำเป็นให้เจรจาแลกเปลี่ยนการหนุนโครงการจากพรรคตรงข้าม
ถ้าได้ทั้ง 9 ข้อแล้ว ยังมีผู้เข้ามาประมูลแย่งงานในราคาต่ำ ให้หาเหตุตัดผู้เสนอเหล่านั้นให้หมดสิทธิได้รับการเปิดซองราคา โดยใช้เหตุผลว่าไม่ผ่านทางด้านของเทคนิค


ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ 08/06/52

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น